Thursday, 19 March 2020

5 เหตุผลส่วนตัว สำหรับการตัดสินใจซื้อประกัน Covid-19 (Coronavirus Insurance)


     ก่อนอื่นต้องขออนุญาตเขียนบทความนี้แบบกันเอ๊ง กันเองหน่อยนะคะ เพราะไม่อยากให้อ่านแบบเครียด ๆ กัน เนื่องจากเป็นการรีวิวความคิดที่ค่อนข้างส่วนตัวมาก ๆ ซึ่งอาจไม่ค่อยตรงใจ หรือ ให้ความรู้ได้มากมายนัก


     หลาย ๆ ท่านคงได้ยินชื่อ ไวรัสโคโรน่า (Coronavirus) ซึ่งเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่  และตั้งชื่อโดยองค์การอนามัยโลกว่า 2019-nCoV หรือ 2019 novel Coronavirus และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "COVID-19" จนถึงปัจจุบัน ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้แล้ว และคงได้เห็นข่าวคราวยอดผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันจากทั่วทุกมุมโลก ความร้ายกาจของเชื้อไวรัสนี้ ที่ยังไม่รู้ต้นตอที่มาอย่างแน่ชัด รวมทั้งยังไม่มียารักษา หรือ วัคซีนป้องกัน ซึ่งเป็นที่น่าวิตกกังวัลสำหรับใครหลาย ๆ คนอยู่ในตอนนี้ อาจก่อให้เกิดความเครียด โรคแพนิค (Panic Disoder) กับเราได้


Photo By : Pung'Noey


     และจากสถานการณ์นี้เอง จึงมีหลาย ๆ บริษัท เปิดโครงการประกันคุ้มครองความเสี่ยงอันเกิดจากสาเหตุการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เราได้รับเชื้อดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวเราได้ทำการศึกษาเงื่อนไข เบี้ยประกัน ความคุ้มครอง จากหลาย ๆ บริษัท เพื่อเลือกให้ตรงกับบริบทของชีวิตมากที่สุด (ต้องขอออกตัวก่อนว่า เป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องประกันอะไร ใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่ค่อยสนใจเรื่องประกันต่าง ๆ สักเท่าไร) โดยจะขอแชร์ความคิดแบ่งเป็น  5 ข้อดังนี้

1. เลือกซื้อกรมธรรม์แบบ ตรวจเจอเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) รับเงินก้อนทันที เนื่องจากได้คิดมาแล้วว่าชีวิตคงได้ร้อนเงิน 555555+  เพราะตัวเราได้ทำงานประจำอยู่กับบริษัทเอกชน หากได้รับเชื้อจริง ๆ คงได้กักตัวอยู่บ้านหรือโรงพยาบาล มีสิทธิประกันสังคมในการรักษาตัว แต่อาจขาดรายได้จากการหยุดงาน มันส่งผลกระทบต่อหนี้สินประจำเดือนที่ยังมีอยู่เยอะ ดังนั้นการเลือกกรมธรรม์แบบรับเงินก้อนอาจเอามาใช้จ่าย พยุงความเดือดร้อน ไปได้ชั่วขณะนึง

2. ข้อตกลงและความคุ้มครองที่เลือก จะเป็นแบบตรวจเจอเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) รับเงินก้อน พร้อมได้รับเงินชดเชยระหว่างรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ในโรงพยาบาล (สูงสุด 14 วัน) และ ได้รับผลประโยชน์การเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ (อ.บ.1) โดยมีระยะเวลารอคอย 14 วัน หลังจากชำระเงิน ซึ่งตรงนี้อยากบอกว่าเราพลาดนิดนึงคือ ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารว่ามีการขายประกันดังกล่าว กว่าจะรู้เรื่องหลายบริษัทก็ปิดโครงการ หรือ เปลี่ยนเงื่อนไขการรับประกันไปแล้ว ซึ่งก็พยายามตามหาประกันที่คุ้มครองทันที แต่ ณ ตอนนี้หาไม่ได้แล้วจ้า อยากบอกว่านี่คือตัวอย่างที่ไม่ดีในการไม่ติดตามข่าวสาร อย่าเลียนแบบนะคะ (เสียใจ 😂)

3. บางคนอาจคิดว่าทำไมไม่ซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทุกโรค ทำไมต้องซื้อประกันเฉพาะอย่างแบบนี้ล่ะ ถ้าไม่ตายด้วยโรคนี้ อาจตายด้วยโรคอื่นก็ได้ ซึ่งขอบอกว่า มันเป็นความคิดส่วนตัวของแต่ละคนไม่ขอก้าวก่ายแต่อย่างใด แต่ส่วนตัวเราที่ตัดสินใจซื้อประกันแบบนี้ก็เพราะ เหตุผลตามข้อ 1 เลยค่ะ ร้อนเงินค่ะ อยากได้เงินก้อน ...แฮร่!! ไม่ใช่!! 5555555+  ถ้าเอาแบบสาระหน่อยเรามองว่า มันเป็นเรื่องของการวางแผนชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันตามแนวคิดและบริบทของชีวิต บางคนไม่มีกำลังทรัพย์มากพอจะซื้อประกันดี ๆ  สักตัว แต่สำหรับประกันตัวนี้ราคาไม่กี่ร้อยบาท ยังพอเอื้อมได้ บางคนอาจใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยงกับการติดเชื้อตัวนี้ ก็อยากทำไว้เพื่อความอุ่นใจ บางคนอยากได้เงินก้อนมาเป็นทุนใช้จ่ายตอนรักษาตัว บางคนอยากได้ค่ารักษาพยาบาล เพราะเกรงว่าหากมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น แล้วรัฐบาลรับรักษาไม่ไหว อย่างน้อยก็มีประกันตัวนี้ช่วยในการรักษาอยู่บ้าง หรือ บางคนมีประกันสุขภาพ ประกันชีวิตอยู่แล้ว อาจมองว่าการทำประกันโคโรน่าเพิ่มเติมเป็นการทับซ้อนสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ไม่มีความคุ้มค่า มันก็เป็นความคิดนานาจิตตังอ่ะเนอะ

4. หลาย ๆ คนถามว่า ทำประกันไปเขาจะจ่ายจริงไหม เชื่อถือได้หรือเปล่า ถึงเวลาเบิกเงินจะยุ่งยาก ข้อแม้เยอะไหม เราขอตอบตรงนี้เลยว่า ...”ไม่ทราบค่ะ”… 55555555+ เอาจริง ๆ นะ!! โรคนี้มันก็เพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน บริษัทประกันก็เพิ่งคิดริเริ่มโครงการ บางคนที่มีกำลังทรัพย์ก็ซื้อไว้หลายกรมธรรม์ แต่ก็ยังไม่มีใครรีวิวว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจริง ขอรับเงินได้อย่างไรบ้าง แต่ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากติดเชื้อ ถ้าต้องเอาปอด เอาสุขภาพไปแลกกับเงิน มันก็ไม่คุ้มเท่าไร ไม่อยากให้โฟกัสว่าเราจะได้รับเงินอย่างไร แต่อยากให้โฟกัสว่าเราควรป้องกันตัวเองอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ ดีกว่านะจ๊ะ

5. เมื่อบางคนสงสัยว่าทำประกันแล้วจะเสียเงินทิ้งหรือเปล่า ถ้าหมอวินิจฉัยออกมาว่าป่วยหรือตายด้วยโรคปอด ไม่ใช่สาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าล่ะจะทำยังไง หากบริษัทประกันบิดพลิ้วไม่ชดเชย ไม่คุ้มครอง ต้องไปตามฟ้องร้องกันอีกนะ ... บลา ๆ ๆ!! ... เอาเป็นว่า เรามองว่าเป็นความโชคร้ายของชีวิตไปล่ะกัน ถ้าถามว่าทำไมเราถึงคิดแบบนี้ ก็อยากบอกว่า เราทำประกันตัวนี้ด้วยเงินไม่ถึงหลักพันบาท เงินจำนวนนี้บางทีเราเอาไปกินข้าว ช๊อปปิ้ง ซื้อเครื่องสำอางค์ เปย์ผู้ชาย หมดมากกว่านี้อีก (ซึ่งบางครั้งการเปย์ผู้ชายก็ยังไม่ได้ใจเขา ถ้าซื้อประกันแล้วไม่ได้ความคุ้มครองก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง .... มองบวก 555555555+) ... กลับสู่โหมดสาระสักนิด ถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริง ๆ ก็ว่ากันไปตามสถานการณ์เนอะ อย่างที่รู้ทุกอย่างมีความเสี่ยง ติดเชื้อก็เสี่ยง ทำประกันก็เสี่ยง หลาย ๆ เรื่องในชีวิตก็อยู่บนความเสี่ยง เพียงแค่ว่าเรายอมรับความเสี่ยงกับสิ่งที่เราลงทุนไปได้มากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้นเอง

     สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า บทความนี้ เป็นแค่ความคิดส่วนตัวของผู้เขียน มันอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี ที่ถูกต้อง 100% มันอาจเป็นการมองชีวิต หรือ วางแผนชีวิตมิติเดียว ซึ่งอาจจะยังไม่รอบคอบมาก แต่ก็หวังว่าบทความนี้อาจจะมีประโยชน์สักนิดสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะวางแผนซื้อประกันสำหรับไวรัสโคโรน่า (Covid-19)


     หลักง่าย ๆ ในการซื้อประกัน คือ เอาตัวเราเป็นหลัก ดูบริบทของชีวิตของเราเองว่าเหมาะกับประกันแบบไหน และที่สำคัญอย่าวิตกจนเกินเหตุ เราทำหน้าที่ป้องกัน วางแผนชีวิต ให้ดีที่สุด หากจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับชีวิตเรานั่นคือสิ่งที่ต้องรับมือและผ่านมันไปให้ได้ ... เป็นกำลังใจให้นะคะ 💗






Pung'Noey :)




No comments:

Post a Comment