Monday, 23 March 2020

จริงหรือไม่!! คนไม่อดทน คือ คนล้มเหลว


     ประโยคสุดคลาสสิคที่ได้ยินมาตั้งแต่วัยเด็ก คือ คนอดทนมักจะประสบความสำเร็จ และเรามักจะได้ยิน ได้อ่าน เรื่องราวของผู้ประสบความสำเร็จที่ยืนอยู่บนหอคอยได้ถ่ายทอดประสบการณ์ แนวคิดการใช้ชีวิต การเดินทาง การต่อสู้ การตัดสินใจ การล้มลุกคลุกคลาน เพื่อไต่ไปยังหอคอยนั้นได้สำเร็จมานักต่อนัก



Photo By : Pung'Noey


     หากวันนี้คุณนำบทเรียนของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักดัน ให้คุณมีความหวัง มีพลังที่จะไต่ไปยังหอคอยนั้นบ้าง ถือเป็นการเรียนรู้ที่ดีของชีวิต แต่ความจริงที่คุณได้รับมันมักไม่ได้เป็นอย่างที่คุณฝันไว้ นั่นเพราะว่าคุณไม่อดทนจึงล้มเหลวใช่หรือไม่ มาสำรวจคำตอบให้กับชีวิตคุณกัน

1. จงยอมรับกับตัวเองก่อนว่า คุณล้มเหลวเพราะไม่อดทน หรือ เพราะคุณทนแล้วแต่ยังล้มเหลว
 ไม่มีใครสามารถประเมินความอดทนของคุณได้นอกจากตัวของคุณเอง เฉกเช่นเดียวกันกับความล้มเหลว ซึ่งก็ไม่มีใครตัดสินคุณได้ว่าสิ่งที่คุณทำมันล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จเพียงใด เพราะมันเป็นเรื่องความพึงพอใจส่วนบุคคล คุณอาจจะอดทนแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลอย่างใจต้องการได้ บางครั้งการได้ลงมือทำก็ถือว่าเป็นความสำเร็จในการกล้าตัดสินใจ ส่วนผลที่ได้จากการลงมือทำมันก็เป็นความสำเร็จของผลลัพธ์นั่นเอง

2. การที่คุณรู้สึกผิดหวังอาจเป็นเพราะคุณกำลังปีนหอคอยของคนอื่น
 คุณสังเกตไหมว่าผู้ที่ยืนอยู่บนหอคอยของความสำเร็จ คือ ผู้ที่สร้างหอคอยนั้นด้วยตนเอง ซึ่งหอคอยของผู้ประสบความสำเร็จของแต่ละคนมักจะมีกลิ่นอาย มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล หากเราเอาแต่ไล่ปีนไต่หอคอยของเขา หรือ พยายามสร้างหอคอยในรูปแบบของเขา เขาก็จะพยายามสร้างหอคอยขึ้นสูงไปอีก ในโลกของการแข่งขัน ผู้นำควรมีความแตกต่าง แต่หากเราอยากได้หอคอยที่ไม่ซ้ำแบบใคร เราควรสร้างมันด้วยความคิด ความต้องการในรูปแบบของเราเอง จงหยิบเอาข้อคิด ความผิดพลาดทั้งจากเราและเขามาพัฒนาสิ่งที่เรามุ่งหวังดีกว่า

3. อย่าโฟกัสแค่คำว่าล้มเหลว หรือ สำเร็จ เพราะชีวิตไม่ได้ถูกลิขิตให้รู้จักแค่คำพวกนี้
 ในการเดินทาง การต่อสู้ การดิ้นรน การลงมือทำ มันให้คุณได้มากกว่าคำว่าประสบการณ์ คุณอาจได้ค้นพบความสามารถอื่น ๆ ในตัวเอง คุณอาจได้ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ จากความพึงพอใจในบางเหตุการณ์ คุณอาจได้คำตอบในสิ่งที่กำลังค้นหา คุณอาจได้ความฉลาดจากการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต คุณอาจคิดได้ว่าการสร้างเรือสำเภาแล้วล่องไปในมหาสมุทร อาจสนุกกว่าการสร้างหอคอย

4. วันนี้คุณไม่ใช่คนที่ไม่มีความอดทน แค่เพราะคุณกำลังเหนื่อย
 เราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีความอดทนกันทุกคน แต่จะมากน้อยเพียงใด ก็ตามแต่ละปัจจัยส่วนบุคคล ถ้าหากคุณกำลังคิดว่าตัวเองไม่มีความอดทน จงรู้ไว้ว่า คุณแค่กำลังเหนื่อย ... จงหลับตา หยุดความคิด แต่ไม่ต้องยุติความหวัง เพียงนอนพักผ่อน รับอ้อมกอดจากตัวเองและคนที่คุณรัก อย่ากลัวว่าการหยุดพักจะทำให้เราไปถึงเส้นชัยช้ากว่าคนอื่น ถ้าใจคุณยังมุ่งมั่น ต่อให้เดินช้ากว่าเขา 10 ก้าว คุณก็ยังไปถึง ไม่ต้องไปคิดว่าต้องแข่งขันกับใคร คุณแข่งกับใจคุณก็พอ ยังไงก็ห้ามท้อ ต้องสู้ไหว!! สู้สิ!! ✌


"ผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ มักเกิดจากความอดทนอันชาญฉลาด 
วินัยที่ไม่ขาด ข้อผิดพลาดที่ไม่มองข้ามไป"


ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ 💗

Pung'Noey :)



Thursday, 19 March 2020

5 เหตุผลส่วนตัว สำหรับการตัดสินใจซื้อประกัน Covid-19 (Coronavirus Insurance)


     ก่อนอื่นต้องขออนุญาตเขียนบทความนี้แบบกันเอ๊ง กันเองหน่อยนะคะ เพราะไม่อยากให้อ่านแบบเครียด ๆ กัน เนื่องจากเป็นการรีวิวความคิดที่ค่อนข้างส่วนตัวมาก ๆ ซึ่งอาจไม่ค่อยตรงใจ หรือ ให้ความรู้ได้มากมายนัก


     หลาย ๆ ท่านคงได้ยินชื่อ ไวรัสโคโรน่า (Coronavirus) ซึ่งเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่  และตั้งชื่อโดยองค์การอนามัยโลกว่า 2019-nCoV หรือ 2019 novel Coronavirus และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "COVID-19" จนถึงปัจจุบัน ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้แล้ว และคงได้เห็นข่าวคราวยอดผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันจากทั่วทุกมุมโลก ความร้ายกาจของเชื้อไวรัสนี้ ที่ยังไม่รู้ต้นตอที่มาอย่างแน่ชัด รวมทั้งยังไม่มียารักษา หรือ วัคซีนป้องกัน ซึ่งเป็นที่น่าวิตกกังวัลสำหรับใครหลาย ๆ คนอยู่ในตอนนี้ อาจก่อให้เกิดความเครียด โรคแพนิค (Panic Disoder) กับเราได้


Photo By : Pung'Noey


     และจากสถานการณ์นี้เอง จึงมีหลาย ๆ บริษัท เปิดโครงการประกันคุ้มครองความเสี่ยงอันเกิดจากสาเหตุการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เราได้รับเชื้อดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวเราได้ทำการศึกษาเงื่อนไข เบี้ยประกัน ความคุ้มครอง จากหลาย ๆ บริษัท เพื่อเลือกให้ตรงกับบริบทของชีวิตมากที่สุด (ต้องขอออกตัวก่อนว่า เป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องประกันอะไร ใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่ค่อยสนใจเรื่องประกันต่าง ๆ สักเท่าไร) โดยจะขอแชร์ความคิดแบ่งเป็น  5 ข้อดังนี้

1. เลือกซื้อกรมธรรม์แบบ ตรวจเจอเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) รับเงินก้อนทันที เนื่องจากได้คิดมาแล้วว่าชีวิตคงได้ร้อนเงิน 555555+  เพราะตัวเราได้ทำงานประจำอยู่กับบริษัทเอกชน หากได้รับเชื้อจริง ๆ คงได้กักตัวอยู่บ้านหรือโรงพยาบาล มีสิทธิประกันสังคมในการรักษาตัว แต่อาจขาดรายได้จากการหยุดงาน มันส่งผลกระทบต่อหนี้สินประจำเดือนที่ยังมีอยู่เยอะ ดังนั้นการเลือกกรมธรรม์แบบรับเงินก้อนอาจเอามาใช้จ่าย พยุงความเดือดร้อน ไปได้ชั่วขณะนึง

2. ข้อตกลงและความคุ้มครองที่เลือก จะเป็นแบบตรวจเจอเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) รับเงินก้อน พร้อมได้รับเงินชดเชยระหว่างรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ในโรงพยาบาล (สูงสุด 14 วัน) และ ได้รับผลประโยชน์การเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ (อ.บ.1) โดยมีระยะเวลารอคอย 14 วัน หลังจากชำระเงิน ซึ่งตรงนี้อยากบอกว่าเราพลาดนิดนึงคือ ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารว่ามีการขายประกันดังกล่าว กว่าจะรู้เรื่องหลายบริษัทก็ปิดโครงการ หรือ เปลี่ยนเงื่อนไขการรับประกันไปแล้ว ซึ่งก็พยายามตามหาประกันที่คุ้มครองทันที แต่ ณ ตอนนี้หาไม่ได้แล้วจ้า อยากบอกว่านี่คือตัวอย่างที่ไม่ดีในการไม่ติดตามข่าวสาร อย่าเลียนแบบนะคะ (เสียใจ 😂)

3. บางคนอาจคิดว่าทำไมไม่ซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทุกโรค ทำไมต้องซื้อประกันเฉพาะอย่างแบบนี้ล่ะ ถ้าไม่ตายด้วยโรคนี้ อาจตายด้วยโรคอื่นก็ได้ ซึ่งขอบอกว่า มันเป็นความคิดส่วนตัวของแต่ละคนไม่ขอก้าวก่ายแต่อย่างใด แต่ส่วนตัวเราที่ตัดสินใจซื้อประกันแบบนี้ก็เพราะ เหตุผลตามข้อ 1 เลยค่ะ ร้อนเงินค่ะ อยากได้เงินก้อน ...แฮร่!! ไม่ใช่!! 5555555+  ถ้าเอาแบบสาระหน่อยเรามองว่า มันเป็นเรื่องของการวางแผนชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันตามแนวคิดและบริบทของชีวิต บางคนไม่มีกำลังทรัพย์มากพอจะซื้อประกันดี ๆ  สักตัว แต่สำหรับประกันตัวนี้ราคาไม่กี่ร้อยบาท ยังพอเอื้อมได้ บางคนอาจใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยงกับการติดเชื้อตัวนี้ ก็อยากทำไว้เพื่อความอุ่นใจ บางคนอยากได้เงินก้อนมาเป็นทุนใช้จ่ายตอนรักษาตัว บางคนอยากได้ค่ารักษาพยาบาล เพราะเกรงว่าหากมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น แล้วรัฐบาลรับรักษาไม่ไหว อย่างน้อยก็มีประกันตัวนี้ช่วยในการรักษาอยู่บ้าง หรือ บางคนมีประกันสุขภาพ ประกันชีวิตอยู่แล้ว อาจมองว่าการทำประกันโคโรน่าเพิ่มเติมเป็นการทับซ้อนสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ไม่มีความคุ้มค่า มันก็เป็นความคิดนานาจิตตังอ่ะเนอะ

4. หลาย ๆ คนถามว่า ทำประกันไปเขาจะจ่ายจริงไหม เชื่อถือได้หรือเปล่า ถึงเวลาเบิกเงินจะยุ่งยาก ข้อแม้เยอะไหม เราขอตอบตรงนี้เลยว่า ...”ไม่ทราบค่ะ”… 55555555+ เอาจริง ๆ นะ!! โรคนี้มันก็เพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน บริษัทประกันก็เพิ่งคิดริเริ่มโครงการ บางคนที่มีกำลังทรัพย์ก็ซื้อไว้หลายกรมธรรม์ แต่ก็ยังไม่มีใครรีวิวว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจริง ขอรับเงินได้อย่างไรบ้าง แต่ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากติดเชื้อ ถ้าต้องเอาปอด เอาสุขภาพไปแลกกับเงิน มันก็ไม่คุ้มเท่าไร ไม่อยากให้โฟกัสว่าเราจะได้รับเงินอย่างไร แต่อยากให้โฟกัสว่าเราควรป้องกันตัวเองอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ ดีกว่านะจ๊ะ

5. เมื่อบางคนสงสัยว่าทำประกันแล้วจะเสียเงินทิ้งหรือเปล่า ถ้าหมอวินิจฉัยออกมาว่าป่วยหรือตายด้วยโรคปอด ไม่ใช่สาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าล่ะจะทำยังไง หากบริษัทประกันบิดพลิ้วไม่ชดเชย ไม่คุ้มครอง ต้องไปตามฟ้องร้องกันอีกนะ ... บลา ๆ ๆ!! ... เอาเป็นว่า เรามองว่าเป็นความโชคร้ายของชีวิตไปล่ะกัน ถ้าถามว่าทำไมเราถึงคิดแบบนี้ ก็อยากบอกว่า เราทำประกันตัวนี้ด้วยเงินไม่ถึงหลักพันบาท เงินจำนวนนี้บางทีเราเอาไปกินข้าว ช๊อปปิ้ง ซื้อเครื่องสำอางค์ เปย์ผู้ชาย หมดมากกว่านี้อีก (ซึ่งบางครั้งการเปย์ผู้ชายก็ยังไม่ได้ใจเขา ถ้าซื้อประกันแล้วไม่ได้ความคุ้มครองก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง .... มองบวก 555555555+) ... กลับสู่โหมดสาระสักนิด ถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริง ๆ ก็ว่ากันไปตามสถานการณ์เนอะ อย่างที่รู้ทุกอย่างมีความเสี่ยง ติดเชื้อก็เสี่ยง ทำประกันก็เสี่ยง หลาย ๆ เรื่องในชีวิตก็อยู่บนความเสี่ยง เพียงแค่ว่าเรายอมรับความเสี่ยงกับสิ่งที่เราลงทุนไปได้มากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้นเอง

     สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า บทความนี้ เป็นแค่ความคิดส่วนตัวของผู้เขียน มันอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี ที่ถูกต้อง 100% มันอาจเป็นการมองชีวิต หรือ วางแผนชีวิตมิติเดียว ซึ่งอาจจะยังไม่รอบคอบมาก แต่ก็หวังว่าบทความนี้อาจจะมีประโยชน์สักนิดสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะวางแผนซื้อประกันสำหรับไวรัสโคโรน่า (Covid-19)


     หลักง่าย ๆ ในการซื้อประกัน คือ เอาตัวเราเป็นหลัก ดูบริบทของชีวิตของเราเองว่าเหมาะกับประกันแบบไหน และที่สำคัญอย่าวิตกจนเกินเหตุ เราทำหน้าที่ป้องกัน วางแผนชีวิต ให้ดีที่สุด หากจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับชีวิตเรานั่นคือสิ่งที่ต้องรับมือและผ่านมันไปให้ได้ ... เป็นกำลังใจให้นะคะ 💗






Pung'Noey :)